5 จุดที่ร้านค้ามักพลาดในการออกแบบชั้นโชว์สินค้า

 

เข้าใจให้ถูกก่อนวางของ เพื่อเพิ่มยอดขายและภาพลักษณ์ร้านค้า

ชั้นโชว์สินค้า ไม่ใช่แค่ที่วางของ แต่คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น การออกแบบชั้นโชว์สินค้าอย่างเหมาะสม จะช่วยให้สินค้าดูน่าสนใจ เป็นระเบียบ และสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ดี แต่เชื่อหรือไม่ว่า ร้านค้าหลายแห่งยังออกแบบชั้นโชว์สินค้าแบบ “ผิดทาง” จนทำให้เสียโอกาสในการขายโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาไปดู 5 จุดที่ร้านค้ามักพลาดในการออกแบบชั้นโชว์สินค้า พร้อมแนวทางแก้ไข เพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงร้านได้อย่างมืออาชีพและสร้างยอดขายได้มากขึ้น

 

 

1. ไม่เข้าใจ “พฤติกรรมของลูกค้า”

ข้อผิดพลาดแรกที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การออกแบบชั้นโชว์สินค้าโดยไม่ได้คำนึงถึงพฤติกรรมของลูกค้าในร้าน ตัวอย่างเช่น การวางสินค้าที่ขายดีไว้ในจุดที่ลูกค้าเดินผ่านน้อย หรือวางสินค้าใหม่ในมุมที่มองเห็นยาก

การออกแบบชั้นโชว์สินค้าที่ดี ควรเริ่มจากการ สังเกตเส้นทางการเดินของลูกค้า (Customer Flow) ว่าพวกเขามักหยุดดูตรงไหน หรือมุมใดเป็นจุดที่คนมองมากที่สุด จากนั้นจึงนำสินค้าหลักหรือสินค้าทำกำไรมาวางในตำแหน่งนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นและสนใจมากขึ้น

แนวทางแก้ไข:

  • ศึกษาเส้นทางการเดินในร้าน และเลือกตำแหน่งวางชั้นโชว์สินค้าให้เหมาะสม
  • วางสินค้าที่ต้องการโปรโมตในระดับสายตา
  • ใช้ป้ายบอกข้อมูลสินค้าในจุดที่คนหยุดมองบ่อยที่สุด

 

2. ใช้ชั้นโชว์สินค้าผิดประเภท

หลายร้านเลือกชั้นโชว์สินค้าจากรูปลักษณ์ภายนอกโดยไม่ดูว่าเหมาะกับสินค้าหรือไม่ เช่น ใช้ชั้นไม้สำหรับวางสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือใช้ชั้นเหล็กขนาดใหญ่เกินไปในร้านเล็ก ๆ ซึ่งทำให้ร้านดูอึดอัดและไม่เป็นระเบียบ

ชั้นโชว์สินค้า มีหลากหลายประเภท เช่น ชั้นเหล็ก ชั้นไม้ ชั้นอะคริลิก หรือแบบพับได้ แต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน การเลือกผิดประเภทอาจทำให้เกิดปัญหาทั้งในเรื่องความปลอดภัยและภาพลักษณ์ร้าน

แนวทางแก้ไข:

  • พิจารณาน้ำหนักและขนาดของสินค้า ก่อนเลือกวัสดุของชั้นโชว์
  • สำหรับร้านที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย ควรใช้ชั้นโชว์สินค้าแบบพับเก็บได้
  • หากร้านมีพื้นที่จำกัด ให้เลือกชั้นแนวตั้งหรือแบบแขวน เพื่อประหยัดพื้นที่

 

 

3. ลืมเรื่อง “การจัดแสง” ให้กับชั้นโชว์สินค้า

อีกหนึ่งความผิดพลาดที่ร้านค้าหลายแห่งมองข้าม คือ “แสงไฟ” ที่ใช้ส่องชั้นโชว์สินค้า แม้จะมีสินค้าดีแค่ไหน แต่ถ้าแสงไม่พอหรือส่องผิดมุม สินค้าก็จะดูไม่น่าสนใจ

แสงไฟไม่เพียงช่วยให้เห็นสินค้าชัดขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ของแบรนด์ได้ เช่น แสงขาวให้ความรู้สึกสะอาดทันสมัย ส่วนแสงเหลืองให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง

แนวทางแก้ไข:

  • ติดตั้งไฟเฉพาะจุด (Spotlight) สำหรับสินค้าที่ต้องการเน้น
  • หลีกเลี่ยงแสงที่แรงเกินไปจนเกิดเงาหรือสะท้อน
  • ใช้ไฟโทนอุ่นหรือขาวนวลตามลักษณะสินค้า เช่น เครื่องสำอางอาจใช้ไฟขาวเพื่อให้เห็นสีชัดเจน

 

4. การจัดเรียงสินค้าไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย

หลายร้านจัดเรียงสินค้าตามความสะดวกของพนักงาน มากกว่าความต้องการของลูกค้า เช่น วางสินค้าหลากหลายประเภทไว้รวมกัน หรือจัดชั้นโชว์สินค้าโดยไม่คำนึงถึงลำดับการมองของลูกค้า

ในความเป็นจริง ลูกค้าจะสังเกตสินค้าแบบไล่ระดับจาก บนลงล่าง – ซ้ายไปขวา (เหมือนการอ่านหนังสือ) ดังนั้นการจัดเรียงสินค้าควรคำนึงถึงลำดับสายตา เพื่อให้ลูกค้าหยุดมองในตำแหน่งที่เราต้องการ

แนวทางแก้ไข:

  • วางสินค้าขายดีหรือสินค้าที่มีกำไรสูงไว้ระดับสายตา
  • แยกประเภทสินค้าให้ชัดเจน เช่น ของใช้ประจำวัน / ของโปรโมชั่น / สินค้าใหม่
  • ใช้สีหรือป้ายประกอบเพื่อดึงดูดความสนใจเพิ่มเติม

 

 

5. มองข้ามความสอดคล้องของ “ดีไซน์” กับแบรนด์

ชั้นโชว์สินค้าไม่ได้มีหน้าที่แค่แสดงของเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารแบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ บางร้านเลือกใช้ชั้นโชว์ที่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ เช่น ร้านเครื่องสำอางหรูแต่ใช้ชั้นเหล็กดิบ ๆ หรือร้านแนวรักษ์โลกแต่ใช้ชั้นพลาสติกเงา ทำให้ภาพรวมของร้านดูขัดแย้ง

การออกแบบชั้นโชว์สินค้าควรสะท้อนตัวตนของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นโทนสี วัสดุ หรือรูปแบบการจัดวาง เพราะทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อเดินเข้าร้าน

แนวทางแก้ไข:

  • ใช้โทนสีของแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ชั้นโชว์
  • เลือกวัสดุที่เข้ากับแนวทางร้าน เช่น ร้านแนวธรรมชาติอาจใช้ไม้ หรือร้านเทคโนโลยีควรใช้โลหะหรืออะลูมิเนียม
  • ออกแบบให้สอดคล้องกับบรรยากาศโดยรวม เช่น โค้งมน เรียบหรู หรือมินิมอล

 

การออกแบบชั้นโชว์สินค้าที่ดี เริ่มจาก “ความเข้าใจลูกค้า”

การออกแบบ ชั้นโชว์สินค้า ที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงหรือซับซ้อน แต่ต้อง “เข้าใจลูกค้า เข้าใจสินค้า และเข้าใจแบรนด์” หากสามารถนำทั้งสามสิ่งนี้มาผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ก็จะได้ชั้นโชว์สินค้าที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างภาพจำที่ดีให้กับร้านอีกด้วย

อย่าลืมว่า ทุกจุดในร้านล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า แม้แต่ชั้นเล็ก ๆ ที่ใช้วางสินค้า ก็อาจเป็น “จุดขาย” ที่ทำให้ลูกค้าหยุดมอง และหยิบสินค้าใส่ตะกร้าได้โดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนปรับปรุงร้าน หรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ลองกลับมามองดูว่า “ชั้นโชว์สินค้า” ของคุณตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสวยงาม การใช้งาน และความสอดคล้องกับแบรนด์หรือยัง เพราะการออกแบบที่ดี ไม่ใช่แค่ดูดี  แต่มันต้อง “ขายได้จริง”

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

สนใจสั่งผลิตชั้นโชว์สินค้าติดต่อ

Tel :  096-194-9880 , 081-352-8771

Line : @ycdisplay